วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วุ้นกะทิ



เครื่องปรุง + ส่วนผสม 

+ ส่วนผสมตัววุ้น + 
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ 
* น้ำเปล่า 5 1/2 ถ้วยตวง 
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 
* น้ำใบเตย, น้ำกาแฟ หรือสีผสมอาหาร (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้) 


+ ส่วนผสมหน้าวุ้น + 
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ 
* น้ำมะพร้าว 2 1/2 ถ้วยตวง 
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 
* หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง 
* แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ 
* เกลือ 1 1/2 ช้อนชา 
* แม่พิมพ์สำหรับใส่วุ้น (ถ้วยหรือชามเล็กๆ ก็สามารถใช้แทนกันได้) 


วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 
1. ทำตัววุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย (หมายเหตุ : สามารถใส่น้ำใบเตยเพื่อทำวุ้นกะทิใบเตยหรือ น้ำกาแฟเพื่อทำวุ้นกะทิกาแฟ หรืออาจใส่ สีผสมอาหารเพื่อให้ได้สีที่ต้องการสำหรับตัววุ้น) 
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายดีจึงหรี่ไฟเบาลง 
3. ตักส่วนผสมตัววุ้นลงไปในแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยหยอดให้ได้ประมาณ 3/4 ของแบบ และปล่อยไว้ให้วุ้นจับตัวพอตึง 
4. ระหว่างรอตัววุ้นแข็ง เตรียมทำหน้าวุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำมะพร้าว ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย 
5. จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพด, หัวกะทิ (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) และ เกลือลงไปในส่วนผสมหน้าวุ้น คนอย่างต่อเนื่องจน ส่วนผสมละลายเข้ากัน 
6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงนำส่วนผสมของหน้าวุ้นไปหยอดใส่พิมพ์ให้เต็มอย่างประณีต

 (พิมพ์ต้องใส่ตัววุ้นก่อน และต้องรอจน ตัววุ้นแข็งพอตึงๆก่อน มิเช่นนั้นตัววุ้นและหน้าวุ้นจะผสมกัน) 
7. เมื่อหน้าวุ้นและตัววุ้นแข็งดีแล้วก็ให้เคาะออกจากแบบ จัดใส่จานและเสริฟได้ทันที 

 

 

ข้าวเหนียวมะม่วง



เครื่องปรุง + ส่วนผสม 

* มะม่วงสุก 3 ลูก 
* ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม 
* หัวกะทิ 450 กรัม 
* เกลือป่น 3/4 ช้อนชา 
* น้ำตาลทราย 550 กรัม 
* ใบเตย 3-5 ใบ 
* ถั่วทอง 5 ช้อนโต๊ะ 
* หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำราด) 
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา (สำหรับทำน้ำราด)
 

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 

1. นำข้าวเหนียวไปล้างและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ 
2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าวเหนียวสุก 
3. ในหม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำตาล, เกลือป่น (3/4 ช้อนชา) และหัวกะทิ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ 
4. ในชามขนาดกลาง ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที 
5. ในระหว่างที่รอ เตรียมทำน้ำกะทิราดหน้าโดย ผสมหัวกะทิ (2 ถ้วยตวง) และเกลือป่น (1/4 ช้อนชา) ลงในหม้อขนาดเล็ก และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนเกลือละลายทั่ว จึงปิดไฟ 
6. ปอกมะม่วงและจัดใส่จาน เวลาเสริฟ ตักข้าวเหนียวใส่จานจากนั้นโรยหน้าด้วยน้ำราดกะทิและถั่วทอง ควรเสริฟทันทีหลังจากปอกมะม่วงเสร็จใหม่ๆ 

 

ขนมหม้อแกงเผือก



ส่วนผสม ขนมหม้อแกงเผือก 

น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง 
กะทิ 1 ถ้วยตวง 
ไข่ 1 ถ้วยตวง 
เผือกนึ่งยีละเอียด 1 ถ้วยตวง 
น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง 
หัวหอมซอย 1/3 ถ้วยตวง
 

วิธีทำ ขนมหม้อแกงเผือก 

1. นำน้ำตาล มาผสมลงในน้ำกะทิ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 
2. ตีไข่ ใส่ลงในเผือก คนให้เข้ากัน แล้วนำกะทิที่ผสมไว้เทลง แล้วคนเข้าให้เขากันอีกรอบ 
3. ตั้งกระทะ เจียวหอมให้พอเหลือง 
4. ตักขนมที่ผสมไว้ใส่ถาด เพื่อนำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 350 F จนสังเกตผิวของขนมเป็นสีเหลืองทอง

 ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที 
5. นำออกจากเตา โรยหน้าด้วยหอมเจียวก็เป็นอันเสร็จ ขนมหม้อแกงเผือก ของพวกเรา 


โครงการอนุรักษ์ขนมไทย "ขนมต้มใบเตย"

โครงการอนุรักษ์ขนมไทย "สัมปันนี"

ขนมเผือก



เครื่องปรุง 
เผือกนึ่งบดละเอียด 1 ถ้วย 
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย 
แป้งมัน 1/4 ถ้วย 
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 
หัวกะทิ 1/2 ถ้วย 
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 

หน้าขนม 
มะพร้าวขูดฝอย 1/4 ถ้วย 
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา 

วิธีทำ 
1. นำเผือกมานึ่งให้สุกและบดให้ละเอียด 
2. ร่อนแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันรวมกัน 
3. นำแป้งที่ร่อนแล้วไปนวดรวมกับเผือกให้เข้ากันโดยใส่หัวกะทิลงไปทีละน้อย 
4. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ส่วนหัวกะทิที่เหลือก็ค่อยๆ ใส่ทีละน้อย 
5. ผสมหัวกะทิให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมดจนน้ำตาลละลายหมด 
6. เตรียมหน้าขนมโดยเคล้ามะพร้าวขูดฝอยกับเกลือป่นให้เข้ากัน 
7. ตักส่วนผสมของเผือกใส่ลงในกระทงหรือถ้วยที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด แล้วนำไปเรียงในรังถึง
8. นึ่งไฟปานกลางค่อนข้างแรงประมาณ 20-25 นาที หรือจนขนมสุกใสเป็นเงา ก็ยกลงได้ 
9. จัดใส่จาน จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย
 


โครงการอนุรักษ์ขนมไทย "ขนมครก"

กระท้อนลอยแก้ว



ส่วนผสม 
กระท้อนปุยฝ้าย 3 ลูก 
(เลือกที่แก่จัด เพราะจะได้เนื้อที่หวานและปุยนุ่ม) 
น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย 
เกลือป่น 1 ช้อนชา 
น้ำร้อน 1 ถ้วย 
น้ำสะอาดหรือน้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย 

วิธีทำ 
- เริ่มจากชงน้ำร้อนกับเกลือ คนจนเกลือละลายแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้ให้เย็น 
- ปอกเปลือกกระท้อนออกให้เกือบ ถึงปุย ใช้มีดแซะเนื้อระหว่างเมล็ดออกและหั่นกระท้อนออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงแช่ในน้ำเกลือที่ทำรอไว้แล้ว 
- ทีนี้ก็มาทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลกับน้ำสะอาด

 (หรือน้ำลอยดอกมะลิ จะช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ) เข้าด้วยกัน และยกตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองเอาผงออก จากนั้นก็ล้างภาชนะที่ทำให้สะอาด แล้วเทน้ำเชื่อมใส่ลงไปเคี่ยวต่ออีกที จนได้น้ำเชื่อมที่ข้นกำลังดีก็เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ 
- ช้อนกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือ ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ และใส่ลงในชามน้ำเชื่อม ใส่เกลือลงไปในน้ำเชื่อมเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ให้พอมีรสหวานเค็มนิดๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ 
- พอเวลาจะกินก็แค่ใส่น้ำแข็ง ลงไป 

หมายเหตุ :โดยตามธรรมชาติของกระท้อนในเมืองไทยนั้น จะออกลูกแค่ปีละครั้ง ในช่วงเดือนพ.ค. - ก.ย.เท่านั้น 

ขนมเต้าส่วน



เครื่องปรุง + ส่วนผสม 
* แป้งมัน 50 กรัม 
* ถั่วเขียวเลาะเปลือก 250 กรัม 
* น้ำเปล่า 900 กรัม 
* หัวกะทิ 200 กรัม 
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 
* แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา 

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือก ล้างทำความสะอาด จากนั้นจึงนำไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปใส่ผ้าขาวบางและนำไปนึ่งจนสุก
2. ระหว่างรอถั่วเขียวนึ่ง เตรียมทำน้ำกะทิราดหน้าโดยนำหัวกะทิไปผสมกับเกลือและนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนสักพักจึงใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปกวนจนแป้งสุกจึงปิดไฟ และพักไว้ 
3. นำน้ำเปล่าไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นจึงใส่น้ำตาลทรายลงไปคนจนละลายดี เสร็จแล้วใส่แป้งมัน ลงไปคนต่อจนแป้งสุกใส ใส่ถั่วเขียวนึ่งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่งลงไป คนจนกระจายทั่ว จึงปิดไฟ 
4. ตักเต้าส่วนใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่สอง) พร้อมเสริฟได้ทันทีทั้งร้อนและเย็น 


เค้กกล้วยหอม(แบบหน้านูน)



ส่วนผสม 
1แป้งเค้ก(บัวแดง) 540 กรัม 
2ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ 
3โซดา 1 ช้อนโต๊ะ 
4กล้วยหอม 700 กรัม 
5น้ำตาลทรายป่น 350 กรัม 
6น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม 
7เกลือ 2 ช้อนชา 
8ไข่ไก่ 2 ฟอง 
9นมข้นจืด 200 กรัม 
10น้ำส้มสายชู 20 กรัม 
11น้ำมันพืช 250 กรัม 
12กลิ่นกล้วยหอม 2 ช้อนชา
 

วิธีทำ 
1ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโซดา รวมกัน 2 ครั้ง พักไว้ 
2ตีกล้วยหอม น้ำตาลทราย น้ำตาลปีบ เกลือ จนเละเข้ากันดีตีพักไว้ 10 นาที 
3ผสมนมกับน้ำส้มสายชู เติมลงในข้อ 2 ครึ่งส่วน เติมไข่ไก่ ตีต่ออีก 5 นาที 
4ใส่แป้งสลับกับน้ำนม แล้วใส่น้ำมัน หมักแป้งไว้ ครึ่งชั่วโมง 
5ตักใส่ถ้วยกระดาษ นำเข้าอบ เวลา 20 นาที


ขนมเทียน



เครื่องปรุง + ส่วนผสม 
* แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม 
* น้ำตาลโตนด 2 ถ้วยตวง (สำหรับทำตัวแป้ง) 
* น้ำตาลโตนด 1 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำไส้) 
* ถั่วเขียวกะเทาะเปลือกนึ่ง 2 ถ้วยตวง 
* น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 
* พริกไทย 1 ช้อนชา 
* น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ 
* มะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง 
* เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
 

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 
1. เริ่มจากทำตัวแป้งก่อนโดย นำน้ำตาลโตนดไปเคี่ยวจนเหนียวแล้วจึงนำไปนวดกับแป้งข้าวเหนียวจนเข้ากัน
2. เตรียมทำไส้หวาน โดยนำน้ำตาลโตนดเคี่ยวกับมะพร้าวจนแห้งจึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ สำหรับไส้เค็ม ให้นำน้ำมันใส่กระทะไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่ถั่วนึ่ง, พริกไทย, เกลือและน้ำตาลทราย ผัดจนหอมและส่วนผสมเข้ากันทั่วจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น 
3. ห่อขนมโดยตัดใบตองเป็นแผ่นๆ เช็ดให้สะอาดและทาด้วยน้ำมันนิดหน่อย ตักแป้งใส่แล้วห่อไส้เค็มหรือไส้หวานตามชอบ จากนั้นนำแป้งอีก ก้อนวางลงบนไส้ ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม นำไปนึ่งประมาณ 30 นาทีจนสุก


ขนมถังแตก



เครื่องปรุง + ส่วนผสม 

+ ส่วนผสมทำตัวแป้ง + 

* แป้งสาลี 500 กรัม 

* แป้งข้าวเจ้า 1500 กรัม 

* กะทิ 3 ถ้วยตวง 

* น้ำ 6 ถ้วยตวง 

* ยีสต์ 2 ช้อนชา 

* น้ำตาลทราย 800 กรัม (1) 

* น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา (2) 

* เกลือป่น
 

+ ส่วนผสมไส้ขนม + 

* งาดำคั่วพอสุก 3 ช้อนโต๊ะ 

* มะพร้าวแก่ขูดเป็นเส้นๆ 2 1/2 ถ้วยตวง 

* น้ำตาลทราย
 

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 

1. ผสมแป้งสาลี, แป้งข้าวเจ้า, น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1 : 800 กรัม) และเกลือป่นเล็กน้อย จากนั้นใส่กะทิและน้ำ คนให้เข้ากัน 

2. ผสมยีสต์กับน้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2 : 2 ช้อนชา)ในน้ำอุ่นเล็กน้อย คนให้เข้ากันดี จากนั้นจึงปิดฝาภาชนะที่ใช้ผสม นำไป ตากแดดประมาณ 8-10 นาที จึงนำไปผสมกับส่วนผสมแป้งในขั้นตอนที่หนึ่ง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง พอเริ่มมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวและมีฟองเป็นอันใช้ได้ 

3. ทาน้ำมันที่กระทะ ตั้งไฟจนร้อนจัดแล้วลดไฟลง ตักแป้ง (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) ใส่กระทะเหล็ก พอแป้งเริ่มสุก จึงโรยน้ำตาลทราย (ตามความหวานที่ชอบ), งา และมะพร้าวขูด แซะพับครึ่งแล้วตักขึ้นใส่จานเสริฟ 


ที่มาhttp://flash-mini.com/thaidessert/133/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%20%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81.htm

ข้าวเหนียวดำเปียกเมล็ดบัว

เครื่องปรุง 
- ข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วยตวง 
- มะพร้าวอ่อน 1 ผล
 
- เมล็ดบัว 1 ถ้วยตวง
 
- น้ำตาลทราย
 

วิธีทำ 
ต้มเมล็ดบัวให้สุกก่อน แล้วตักขึ้น เอาข้าวเหนียวดำต้มกับน้ำมะพร้าว ขูดเนื้อมะพร้าวใส่ลงไปด้วย เติมน้ำลงไปพอให้ได้ข้าวเหนียวที่มีน้ำขลุกขลิก พอเมล็ดข้าวบาน ใส่เมล็ดบัวลงไป เติมน้ำตาลทรายอย่าให้หวานมาก 

จ่ามงกุฎ


 

ส่วนผสม 
ไข่ไก่ใช้แต่ไข่แดง 6 ฟอง 
กะทิ 1 ถ้วยตวง
 
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
 
แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
 
สีเหลืองและสีแดง (สำหรับผสมอาหาร)
 
ทองคำเปลวอย่างดีตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
 

วิธีทำ
 
ผสมกะทิกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ส่วนผสมข้น ยกลงทิ้งไว้ให้อุ่น 
ใส่ไข่แดงลงในสวนผสมข้อที่ 1 ทีละฟอง คนให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน
 
ค่อย ๆ ร่อนแป้งลงในส่วนผสมข้อที่ 2 คนไปทางเดียวกัน และคนให้เข้ากันดี นำไปตั้งไฟกวนให้สุกและแห้งไม่ติดมือ
 
หยดสีแดงและสีเหลืองลงในส่วนผสม (ขณะที่ขนมยังไม่ได้ที่) ให้ขนมมีลักษณะเป็นสีทอง จึงจะถูกต้อง
 
เมื่อขนมได้ที่แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
 
ปั้นส่วนผสมที่ได้เป็นรูปกลม ใช้มีดกรีดเบา ๆ เป็น 6 พูอย่าให้ขาด ลักษณะจะคล้ายผลมะยม เตรียมไว้เท่ากับจำนวนแป้งที่ทำเป็นถ้วยไว้
 


ส่วนผสมถ้วยขนม 
แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง 
ไข่ไก่ใช้แต่ไข่แดง 3 ฟอง
 


วิธีทำ 
นวดแป้งกับไข่แดงให้เข้ากัน 
ใช้ไม้คลึงให้บาง กรุลงในพิมพ์
 
นำไปอบให้สุกเหลือง
 


ส่วนผสมเมล็ดแตงโม 
เมล็ดแตงโม 1 ถ้วยตวง
 
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
 
น้ำเปล่า 1 1 / 2 ถ้วยตวง
 


วิธีทำ 
นำน้ำตาลทรายผสมน้ำเปล่า เคี่ยวให้เหนียว พักไว้ให้เย็น 
นำกระทะทองตั้งไฟอ่อน ๆ คั่วเมล็ดแตงโมให้เหลือง
 
ตะแคงกระทะทองเช็ดรอบ ๆ กระทะให้สะอาด ใช้มือจุ่มน้ำเชื่อมสะบัดใส่เมล็ดแตงโมในกระทะทอง ใช้มือกวาดไปมาบนกระทะจนน้ำตาลแห้งเกาะเมล็ดแตงโม ให้มีลักษณะเป็นหนามพองาม
 
วางจ่ามงกุฎที่ปั้นแล้วลงในถ้วยแป้ง แต่งด้วยเมล็ดแตงโมโดยรอบ ปั้นส่วนผสมจ่ามงกุฎเป็นเม็ดกลมเล็ก ๆ วางเป็นยอดและปิดทองบนยอด
 


ที่มา แม่บ้าน ปีที่ 30 ฉบับที่ 436 กันยายน 2548

สังขยาฟักทอง


 

เครื่องปรุง + ส่วนผสม 

* ฟักทอง 1 ลูก (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม) 

* ไข่่ 4 ฟอง
 

* หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
 

* น้ำตาลปิ๊บ 1/4 ถ้วยตวง
 

* แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
 

* เกลือป่น 1/4 ช้่อนชา
 

* น้ำปูนใส
 

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
 

1. นำฟักทองมาตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมบริเวณหัวขั้วจากนั้นจึงขวักเมล็ดข้างในออก จนกลวงเป็นช่องภายใน จากนั้นจึงนำไปน้ำปูนใสประมาณ 8 - 10 นาที แล้วจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ (เคล็ดลับ : แช่น้ำปูนใสเพื่อไม่ให้ฟักทองแตกเวลานึ่ง) 

2. ระหว่างรอฟักทองที่แช่ในน้ำปูนใส เตรียมทำสังขยาโดยผสมไข่ไก่, หัวกะทิ , แป้งข้าวเจ้า, น้ำตาลปิ๊บ และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากันดี
 

3. นำส่วนผสมสังขยาที่ทำในขั้นตอนที่สองเทลงในฟักทอง จากนั้นจึงนำไปนึ่งประมาณ 20 - 25 นาที กรณีเสริฟเป็นลูกฟักทอง ก็นำฝาที่ตัดออกไปนึ่งด้วย ถ้าแบ่งเสริฟก็หั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อความสวยงามและน่ารับประทาน เวลาหั่นควรระวังไม่ให้สังขยาเละ